สิ่งมหัศจรรย์ที่สวยกว่าหิ่งห้อย

    หากเอ่ยถึงหนอน..ด้วย..กิ้งกือ..และบลาๆ แน่นอนว่าหลายๆคนคงไม่อยากเข้าใกล้ หรือไม่ก็คงบอกว่าเอาไปให้ไกลๆเลย แล้วแบบนี้จะมีคนอยากไปเที่ยวกับทราเวลไทยซ่าส์มั้ยนะ!..เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่ทราเวลไทยซ่าส์จะพาคุณไปเยือนในวันนี้นั้นขอบอกว่ามีแต่หนอน..และหนอนเท่านั้นค่ะ 









      "ถ้ำไวโตโมโกลว์วอร์ม" (Waitomo Glowworm Caves) หรือ "ถ้ำหนอนเรืองแสง"คือจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่อยากแนะนำให้คุณมาเยือนสักครั้ง โดยถ้ำนั้นอยู่ในเขตเมืองไวโตโม (Waitomo) เมืองท่องเที่ยวเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ (NewZealand) 
      โดยถ้ำนั้นถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษมีการการนำของหัวหน้าชาวเมารีในแถบนั้นชื่อ Tane Tinorau ต่อมามีการแพร่กระจายออกไปถึงความงามของถ้ำไวโตโม และหนอนเรืองแสง จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมาย 
      ภายในถ้ำนั้นเป็นที่อยู่ของหนอนเรืองแสงนับล้านตัว ประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner's Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสงที่งดงามมากๆค่ะ สำหรับการเข้าชมหนอนเรืองแสงมีเป็นรอบๆทุกๆครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00 น. ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 45 นาที

อะไรเอ่ย ล่องหนได้?

     สงสัยกันใช่มั้ยคะ ว่า การล่องหน มันมีอยู่จริงในโลกนี้ วันนี้ มีข่าวเกี่ยวกับการล่องหน มาฝากด้วยนะคะ  มาดูกันเลย

   เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา สำนักงานข่าวต่างประเทสรายงานว่า  รัฐบาลเกาหลีใต้ได้อนุมัติให้ บริษัท จีดีเอส อาร์ชิเทคส์  สร้างหอคอยล่องหนแห่งแรกของโลก

โดยหอคอยดังกล่าวจะสร้างจาก ไดโอดเปล่งแสงและกล้องเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะทำให้อาคารมีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ข้างหลังคล้ายว่ามันล่องหนอยู่  ไม่ว่าด้านหลังของยอดหอคอยจะเป็นท้องฟ้า หรือก้อนเมฆ หอคอยดังกล่าวก็จะเปลี่ยนสภาพให้กลมกลืนได้อย่างแนบเนียน

โดยหอคอยล่องหนนี้จะมีการติดตั้งกล้องไว้ในระดับความสูง 3 ระดับ เพื่อจับภาพแบบเรียล ไทม์ ซึ่งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ ซิตี้ ทาวเวอร์ แต่ด้วยความที่รูปร่างคล้ายปากกาหมึกซึมทำให้มันมีอีกชื่อหนึ่ง ว่า ทาวเวอร์ อินฟินิตี้  ตึกดังกล่าวมีความสูงราว 450 เมตร และจะก่อสร้างห่างจากกรุงโซลประมาณ 30 ก.ม. ห่างจากสนามบินอินชอน 15 ก.ม.

ทั้งนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาเปิดเผยว่า การสนับสนุนโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเป็นแหล่งพักผ่อนเพื่อคนภายในประเทศ ไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการทหาร

ขอบคุณข้อมูลจาก http://news.mthai.com/world-news/271011.html

ทะเลสีแดง ทะเลสีหวานเย็น หรือทะเลสีเลือดล่ะ????

ทะเลสีแดง! ปรากฎการณ์หาดูยากที่ออสเตรเลีย

         ทะเลสีแดง

          ปรากฎการณ์หาดูยากซึ่งเรียกกันว่า "สาหร่ายสะพรั่ง" สีแดงหรือการเจริญเติบโตมากผิดปกติของสาหร่ายสีแดงในน้ำ เป็นผลให้ต้องสั่งปิดชายหาดบอนไซ ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ขณะที่คลื่นสีแดงเข้มถูกซัดเข้าหาฝั่ง ขณะเดียวกันเจ้าหนัาที่ยังต้องปิดชายหาดโคลเวลลี ที่อยู่ติดกัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบสภาพน้ำทั้งในและพื้นที่โดยรอบทะเลทัสมาน

       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนถึงนักท่องเที่ยวให้อยู่ห่างจากสาหร่ายที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา สืบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่มันอาจก่อปฏิกริยาต่อมนุษย์ แม้ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลียนสีนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีพิษที่เป็นอันตราย แต่ประชาชนก็ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสกับน้ำทะเล เนื่องจากมันมีปริมาณแอมโมเนียระดับสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองผิวหนัง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://news.sanook.com/

พื้นที่ รูปหัวใจ

พื้นที่รูปหัวใจ ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้ให้ “เรา”

วันนี้มีรูปภาพพื้นที่ที่มีลักษณะของรูปหัวใจมาฝากกัน เห็นแล้วจะต้องทึ่งแน่ๆเลย มาดูกันเลย

          1. ป่ารูปหัวใจ ที่ Cantabria สเปน (Heart-Shaped Forest, Cantabria, Spain)

ป่ารูปหัวใจ ตั้งอยู่ที่เมือง Cantabria ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ความพิเศษคือ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นวิวรูปหัวใจ จะต้องมองจากมุมสูงมุมนี้เพียงมุมเดียวเท่านั้น

          2. เกาะรูปหัวใจ กลางทะเลสาบกูเตียเรซ พาตาโกเนีย (Heart-Shaped Island, Gutierrez Lake, Patagonia, Argentina)

เกาะรูปหัวใจ ตั้งอยู่เมืองพาตาโกเนีย ประเทศอาร์เจนตินา ตัวเกาะเต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม มุมที่สวยที่สุดในการชมทิวทัศน์ของเกาะที่น่ารัก น่ามองแห่งนี้ อยู่ทางฝั่งตะวันออกของทะเลสาบกูเตียเรซ (Gutierrez Lake)

          3. พื้นที่ชุ่มน้ำรูปหัวใจ ไต้หวัน (Heart-Shaped Wetland, Guandu Nature Park, Taiwan)

ท้องทุ่งรูปหัวใจ ตั้งอยู่ภายในเขตอนุรักษ์นกและศูนย์ศึกษาธรรมชาติ Guandu กลางกรุงไทเป

           4. เกาะทาวารัว ฟิจิ (Tavarua Island, Fiji)

เกาะทาวารัว เกาะสวาทหาดสวรรค์รูปหัวใจที่ถูกเนรมิตโดยธรรมชาติล้วนๆ อยู่นอกชายฝั่ง Viti Levu ของฟิจิ รายล้อมด้วยปะการังแสนสวย และยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทสุดโรแมนติกอีกด้วย

          5. เกาะกาเลสน์แจ็ค โครเอเชีย (Galesnjak, Croatia)

เกาะกาเลสน์แจ็ค เกาะรูปหัวใจ – อัญมณีแห่งท้องทะเลอาเดรียติก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลประเทศโครเอเชีย ส่วนที่กว้างที่สุดเพียงครึ่งกิโลเมตร และต้องพายเรือเข้าไปเท่านั้น

         6. ทะเลสาบรูปหัวใจ โอไฮโอ (Heart-Shaped Lake, Ohio)

ทะเลสาบรูปหัวใจแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมา โดยอยู่ภายในที่พักส่วนตัวของมหาเศรษฐี ใกล้มุมเขาโคลัมเบีย ในโอไฮโอ

          7. ป่ารูปหัวใจ นิวคาเลโดเนีย (Heart-Shaped Mangrove, Voh, New Caledonia)

พื้นที่รูปหัวใจอันลือชื่อ บนป่าชายเลนในนิวคาเลโดเนีย เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการขึ้นปกหนังสือ "Earth From Above" ผลงานของช่างภาพทางอากาศ Yann Arthus Bertrand

         8. ทะเลสาบรูปหัวใจ เช็มบร้า อินเดีย (Heart-Shaped Lake, Chembra, India)

ทะเลสาบรูปหัวใจที่สวยแปลกตา ใกล้ยอดเขาเช็มบร้าในอินเดีย กล่าวกันว่า น้ำในทะเลสาบนี้ไม่เคยเหือดแห้ง ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 150 คน มาแวะชมความอัศจรรย์ระหว่างทางเดินขึ้นไปพิชิตยอดเขา…

9. แนวปะการังรูปหัวใจ (Heart Reef, Great Barrier Reef of the Whitsundays)

แนวปะการังรูปหัวใจที่ได้รับการปั้นแต่งขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นหนึ่งในหมู่แนวปะการังขึ้นชื่อของประเทศออสเตรเลีย แม้ว่านักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสความงามได้จากทางอากาศเท่านั้น แต่ก็คุ้มค่ากับการรอชมทัศนียภาพของปะการังแห่งความรัก

สวยงามกันมากเลยใช่มั้ยคะ เห็นมั้ยว่า เรามีพื้นที่ที่มีสัญลักษณ์ของความรักมากมายเลย มาช่วยกันเติมเต็มความรักให้โลกน่าอยู่ขึ้นนะคะ

อย่างเจ๋ง ทะเลเรืองแสงได้

วันนี้เรามาดูสิ่งสวยงาม แบบที่ไม่เคยเเห็นมาก่อน

ทะเลเรืองแสง นั่นเอง

สงสัยกันมั้ยว่าเป็นภาพจริงหรือภาพปลอม เรามีข้อมูลดีๆมาฝากด้วย

              ภาพเหล่านี้เกิดจากฝีมือของ นายชารลส์ เหลียง ช่างภาพวัย 33 ปี เปิดเผยภาพถ่ายสุดแปลกและงดงามมาก โดยเป็นภาพถ่ายที่ชายหาดลินด้าร์ เมืองแพ็คฟิค้า แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดปรากฎการณ์ทะเลเรืองแสงจากการที่สาหร่ายใต้ทะเลถูกคลื่นรบกวนและปล่อยแสงสีน้ำเงินออกมา เกิดเป็นภาพที่สวยงาม

ชายหาดลินด้าร์ เมืองแพ็คฟิค้า แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 

สาหร่ายใต้ทะเลถูกคลื่นรบกวนและปล่อยแสงสีน้ำเงินออกมา เกิดเป็นภาพที่สวยงาม

เป็นไงกันบ้าง สวยงามใช่มั้ยล่ะ ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ย ว่าจะเป็นรูปถ่าย จริงๆ 

หอประชุมเป่าลมแห่งแรกของโลก

วันนี้เรา มาดู หอประชุมกัน อ้าว อย่าเพิ่งทำหน้างง หอประชุม?

เราจะดูทำไม?   มันก็น่าจะเหมือนๆกันทั้งนั้น

ไม่เสมอไปนะคะ นี่เป็นหอประชุมเป่าลมค่ะ เป่าด้วยลม ลม และ ลม 

และเป็นหอประชุมแห่งแรกของโลกด้วย สงสัยมั้ยว่าอยู่ที่ไหน   มาดูกันเลยดีกว่า

         ญี่ปุ่นสร้างหอประชุมเป่าลมที่แรกในโลก จากวัสดุโพลีเอสเตอร์เคลือบ เตรียมใช้จัดงานคอนเสิร์ต 27 กันยายน-14 ตุลาคมนี้ จุผู้ชมได้ถึง 500 คน

          วัน ที่ 25 กันยายน 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า ทางชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ประติมากรชาวอังกฤษ แอนิช คาพอร์ และสถาปนิกชาวญี่ปุ่น อาราตะ อิโซซากิ ได้ร่วมกันสร้างหอประชุมเป่าลมขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกขึ้น ที่สวนสาธารณะของเมืองมัตซูชิมะ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตที่จะเริ่มทำการแสดงในตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-14 ตุลาคมนี้

          โดยหอประชุมเป่าลมดังกล่าว มีลักษณะเป็นโครงสร้างสีม่วงขนาดยักษ์ที่ทำขึ้นจากวัสดุโพลีเอสเตอร์เคลือบ มีขนาดประมาณกว้าง 18 เมตร ยาว 35 เมตร ซึ่งหากเป่าลมจนพองเต็มที่จะสามารถจุผู้ชมได้ถึง 500 คน ขณะที่เก้าอี้ภายในหอประชุมนั้นล้วนถูกสร้างขึ้นจากไม้ของต้นซีดาร์ที่พัง เสียหายเนื่องจากภัยพิบัติ และด้วยคุณลักษณะพิเศษของสถานที่แห่งนี้เอง ที่ทำให้มันสามารถถูกปล่อยลมออกจนแฟบและเคลื่อนย้ายหอประชุมนี้ไปจัดงาน คอนเสิร์ตขึ้นได้ทั่วภูมิภาค

          สำหรับ งานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นด้วยความช่วยเหลือจาก งานเทศกาลลูเซิร์น ของสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งโดดเด่นด้วยการรวบรวมนักดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาไว้รวมกัน โดยภายในงานที่จัดขึ้นที่หอประชุมเป่าลมนี้ จะประกอบไปด้วยการแสดงจาก เซนได ฟิฮาร์โมนิค ออร์เครสตา และโรงสะครคาบูกิ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรวบรวมคนมาเข้าชมได้ไม่น้อยทีเดียว

เทศกาล ปา ปา โยน โยน

วันนี้เราจะมาดูเทศกาลแปลกๆ ในการปา การโยนสิ่งต่างๆกัน

เทศกาลปาสี (Gulal Throwing)

สถานที่ : ประเทศอินเดีย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันที่สุดในโลก เทศกาล Holi Festival อันโด่งดังของประเทศอินเดียที่เราคงเคยเห็นภาพกันมาบ้าง งานนี้เป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและช่างภาพจากทั่วโลกให้ไปเข้าร่วมเล่นกันอย่างสนุกสนานและถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้

งานนี้จะมีขึ้นทุกๆ ปีในเดือนมีนาคม สีที่ใช้ปาใส่กันคือผงสีสันสดใสที่เรียกว่า Gulal ซึ่งจะถูกปาใส่ทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของที่อยู่บริเวณในงาน ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีสันสดใส และสถานที่ๆ เป็นที่นิยมที่สุดในการไปเที่ยวเทศกาลนี้คือในหมู่บ้านรอบๆ รัฐอุตตร

ในวันก่อนงานเทศกาลจะมีการก่อกองไฟเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย และร้านค้าต่างๆ ก็จะกักตุนสี Gulal เอาไว้ขายในวันงาน เหตุที่ต้องใช้สีสันสดใสในเทศกาลนี้ก็เพื่อสื่อถึงความมีพลัง และความสุข สนุกสนาน

เทศกาลปาแป้งและไข่ (Flour and Eggs Throwing)

สถานที่ : ประเทศสเปน

เมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว ชาวเมือง Ibi ในอาลีคานเต้ ประเทศสเปน มีงานเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลอง วันโกหก (April fool’s day) ด้วยการปาแป้งสู้กันในบริเวณศูนย์กลางเมือง เทศกาลนี้ชื่อว่า els enfarinats จากภาพถ่ายของผู้ที่ได้ไปเยี่ยมชม จะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณงาน ไม่เว้นแม้แต่คน กลายเป็นสีขาวกันไปหมดจนแทบจะมองไม่เห็นสีอื่นเลย

งานนี้นอกจากการปาแป้งแข่งกันสนุกๆ แล้ว ใครที่แข่งปาแป้งและไข่กับคณะกรรมการเมืองชนะจะได้รับเกียรติให้ออกกฏหมายใหม่ที่จะใช้กันในเมืองเป็นเวลา 1 วัน และใครที่ฝ่าฝืนก็จะถูกปรับ ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปเข้าการกุศลต่อไป 

เห็นแบบนี้แล้วคุณอยากให้ประเทศไทย มีเทศกาลแบบนี้กันมั้ยเอ่ย?? แต่เราจะปาอะไรกันดีล่ะ